แม้รัฐบาลจะออกมาตรการทางภาษี และสนับสนุนเงินส่วนลดหลักแสนบาท เพื่อส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์ใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนว่ายังมีเรื่องเวียนหัว ให้คนไทยที่คิดจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีอีกไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของสถานีชาร์จแบตเตอรี่ หรือราคาแบตเตอรี่ที่แพงแสนแพง รวมถึงเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่แพงกว่ารถยนต์ทั่วไปไม่ใช่เล่นๆ

จากการสำรวจราคาเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า พบว่าจะมีราคาสูงกว่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ในกลุ่มรถที่ใกล้เคียงกัน 15-20% โดยมีสาเหตุ เนื่องจากคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

  • ปัจจุบัน ปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ยังมีจำนวนน้อย เมื่อเทียบรถยนต์ใช้น้ำมัน โดยมียอดจดทะเบียน 20,000 คัน แบ่งเป็นรถเก๋ง 7,500 คัน และรถอื่น เช่น รถจักรยานยนต์และรถโดยสาร 12,500 คัน ทำให้อัตราถัวเฉลี่ย กระจายความเสี่ยงทางประกันมีไม่เยอะ และต้องคิดเบี้ยแพง
  • นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลทางเทคนิคอื่น เช่น รถยนต์ไฟฟ้าจะมีอัตราเร่ง และความสามารถในการใช้ความเร็วสูง ได้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป ส่งผลให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มที่เกิดความเสียหายมากกว่ารถยนต์ทั่วไป
  • รถไฟฟ้ามีส่วนประกอบที่เป็นระบบอีเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก ทำให้มีข้อจำกัดในการจัดซ่อมแตกต่างจากรถยนต์ปกติ โดยเฉพาะชุดอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า และระบบอีเล็กทรอนิกส์ หากมีความเสียหายเพียงเล็กน้อย จำเป็นต้องเปลี่ยนยกชุด ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเฉพาะชิ้นส่วนได้ ทำให้ค้าใช้จ่ายในการจัดซ่อมสูงกว่ารถทั่วไป
  • รถไฟฟ้าในไทยเพิ่งเริ่มทำตลาด ศูนย์ หรือดีลเลอร์ ยังไม่ได้จัดเตรียม stock ชิ้นส่วนอะไหล่ ที่เพียงพอสำหรับการตัดซ่อม เมื่อเกิดอุบัติเหตุต้องมีการนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศ ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
  • ที่สำคัญแบตเตอรี่ เป็นชิ้นส่วนที่มีมูลค่าสูงสุด เมื่อเทียบกับมูลค่ารถทั้งคัน โดยเมื่อประสบอุบัติเหตุแล้วส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่ จะไม่สามารถจัดซ่อมได้ ทำให้แนวโน้มการเกิดสินไหมคืนทุนสูงกว่าปกติ ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ยี่ห้อ ORA ราคาทุนประกันภัยประมาณ 8 แสนบาทส่วนของแบตเตอรี่ที่เสียหายต้องมีการเปลี่ยน ต้นทุนในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ยกชุดประมาณ 5 แสนบาท ส่งผลให้ความเสียหายเฉลี่ยของรถยนต์ไฟฟ้า สูงกว่ารถทั่วไปค่อนข้างมาก ซึ่งข้อมูลจากการรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้ ของต่างประเทศ ซึ่งมีประสบการณ์ในการรับประกันภัยมาก่อนพบว่ามีความเสียหายสูงมากกว่ารถสันดาปถึง 30-40%

ตาราง อัตราเบี้ยประกันโดยเฉลี่ย ของรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อต่างๆในไทย

หมายเหตุ เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด

อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้หารือร่วมกับบริษัทประกันภัย ผู้แทนจากคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า แพงกว่ารถยนต์ทั่วไป ซึ่งพบว่ารถสัญชาติเอเชีย เบี้ยจะสูงกว่ารถสันดาปในระดับเดียวกัน 5-10% รถยุโรปสูงกว่า 10-15% และอเมริกาสูงกว่า 20-25%

ดังนั้น ที่ประชุมเห็นตรงกันในการแก้ไขปัญหาเบี้ยประกันภัยระยะสั้นและเร่งด่วน โดยให้มีการจัดทำเอกสารแนบท้าย กำหนดทางเลือกเฉพาะกรณีแบตเตอรี่ได้รับความเสียหายเป็น 3 กรณี ให้ผู้เอาประกันภัยเลือกข้อใดข้อหนึ่ง และบริษัทจะให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัย 10-25%คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

  • กรณีที่ 1 จำกัดจำนวนเงินความคุ้มครองของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทจะให้ความคุ้มครองไม่ต่ำไปกว่า 50% ของมูลค่าแบตเตอรี่
  • กรณีที่ 2 กำหนดความรับผิดส่วนแรก โดยจะระบุไม่เกิน 15% ของมูลค่าแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
  • กรณีที่ 3 กำหนดให้ผู้เอาประกันภัยต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายร่วมไม่เกิน 15%
  • ที่ประชุมได้ตกลงร่วมกันว่าในช่วงนี้บริษัทประกันภัยรถอีวี จะไม่มีการขึ้นเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมโดยบริษัทจะคงราคานี้ไว้ไปก่อน แม้ว่าอัตราการเคลม ของกลุ่มนี้จะสูงกว่ารถสันดาปค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ จะดำเนินควบคู่กันไปเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนคือจะดำเนินการเก็บรวบรวมสถิติในการรับประกันภัยรถ EV และศึกษารูปแบบการประกันภัยเพื่อจัดทำพิกัดอัตราเบี้ยประกันภัยรถ EV เพื่อให้ความคุ้มครองและอัตราเบี้ยประกันภัยสอดคล้องกับความเสี่ยงและต้นทุนในการรับประกันภัย ซึ่งเป็นความเสี่ยงภัยใหม่ที่บริษัทประกันภัยในประเทศไทยยังไม่มีประสบการณ์เพียงพอ โดยกำหนดแผนดำเนินการให้เสร็จภายในปี 2566 ต่อไป

By admin